ดูดไขมัน ปั้นหุ่นสวย กำจัดส่วนเกิน ช่วยแก้ปัญหารูปร่างให้เข้าที่ สมส่วน อวดหุ่นเป๊ะ

คนไหนที่มีความต้องการจะดูดไขมันเพื่อที่จะปั้นหุ่นตัวเองให้ดูสวย สุขภาพดี สมส่วน อยากให้ทำความเข้าใจกับคำว่า “ดูดไขมัน” ก่อนว่าคืออะไร ซึ่งการดูดไขมันจะเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว เหนียง เป็นต้น การดูดไขมัน ยังนับว่าเป็นวิธีที่รวดเร็วในการลดสัดส่วนรูปแบบหนึ่ง ที่มีความปลอดภัย และเห็นผลชัดเจนมากหลังทำ  แม้การดูดไขมันจะเป็นการลดขนาดของสัดส่วนให้เล็กลง แต่ก็ไม่ใช่วิธีลดความอ้วนอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจดูดไขมันมาดูกันก่อนว่าคือ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกับข้อสงสัยต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความกระจ่างมากยิ่งขึ้น

ทำความรู้จักกับการดูดไขมัน

การดูดไขมัน (Liposuction) ถือได้ว่าเป็นการทำศัลยกรรมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะช่วยกำจัดปัญหาไขมันส่วนเกิน ได้อย่างตรงจุด สาว ๆ คนไหนที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา, เอว หรือเหนียง เป็นต้น การดูดไขมันส่วนเกินนี้จะช่วยในการลดสัดส่วนในส่วนที่ลดยาก มีความปลอดภัย และเห็นผลชัดเจนมากหลังทำ 

หากใครที่กำลังคิดจะปรับเปลี่ยนรูปร่างให้ดูดสวยงามด้วยการดูดไขมันนี้ หากเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีห้องทำหัตถการที่ปลอดเชื้อและมีวิสัญญีแพทย์คอยเฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่ต้องมีการวางยาสลบ รับรองได้ว่าจะได้รับความปลอดภัย และมีความเสี่ยงที่น้อยมาก 

การดูดไขมัน ช่วยในเรื่องใด ?

การดูดไขมันสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับสาว ๆ ที่มีไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด เป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังออกมาทำให้สัดส่วนดูเล็กลง โดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งทางคลินิกหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องดูดไขมันประเภทต่าง ๆ เข้าช่วยในการสลายไขมัน โดยแพทย์จะทำการดูดไขมันคู่กับการใช้ยาชาหรือคู่กับการวางยาสลบ โดยจะต้องมีวิสัญญีแพทย์ร่วมด้วย การจะดูดไขมันด้วยวิธีใดนั้นแพทย์จะเป็นผู้แนะนำตามความเหมาะสมของแต่ละคน

แนะนำวิธีตรวจเช็คไขมันส่วนเกิน

หลายคนที่ต้องการดูดไขมันออกเพราะคิดว่าตัวเองมีไขมันมาก ทำให้มีสัดส่วนที่ใหญ่อาจเกิดจากความเข้าใจผิดก็ได้ เพราะสัดส่วนของแต่ละคนนั้นบางคนไม่ได้ใหญ่เพราะไขมัน แต่อาจเป็นกล้ามเนื้อและสภาพผิวย้วยแทน ซึ่งตรงนี้สามารถเช็คได้ว่า เราเหมาะสมกับการดูดไขมันหรือไม่ โดยการทดสอบว่าเรามีไขมันใต้ชั้นผิวหนังเยอะเหมาะกับการไปเสียเงินเพื่อดูดไขมันหรือไม่ ซึ่งวิธีการตรวจเช็คนี้สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และหากไม่แน่ใจก็สามารถไปเช็คที่โรงพยาบาลได้เช่นกัน โดยมีวิธีการตรวจเช็คดังนี้

• เช็คไขมันง่าย ๆ ด้วยตัวเอง โดยการทำ Pinch Test หรือการใช้มือของเราบีบหยิบไขมันในส่วนที่เรามีความกังวล เช่นไขมันหน้าท้อง ถ้าบีบขึ้นมาแล้วหนา ยิ่งหนาเท่าไหร่ นั่นหมายความว่าเรามีไขมันใต้ชั้นผิวหนังเยอะเท่านั้น
• ใช้เครื่องวัดไขมัน Body Fat ซึ่งเครื่องนี้มักพบได้ในฟิตเนส หรือขายตามโลกออนไลน์ โดยที่แต่ละรุ่นจะให้ความแม่นยำและราคาที่ต่างกัน
• ใช้ที่หนีบไขมัน Fat Caliper หนีบดูว่าไขมันที่ทำให้สัดส่วนของเราดูอ้วนขึ้นนั้น เป็นไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังหรือไม่ หรือเป็นไขมันที่อยู่ในช่องท้อง ถ้าหนีบแล้วหนา นั่นหมายความว่าเรามีไขมันใต้ชั้นผิวหนังเยอะ สามารถเข้ามาพบแพทย์ เพื่อประเมินการดูดไขมันได้
• การทำอัลตร้าชาวด์ (Ultrasound) เพื่อเช็คว่าไขมันในตัวเรานั้นมีความหนามากแค่ไหน

ดูดไขมันส่วนไหนออกได้บ้าง ?

ปกติแล้วในร่างกายของคนเราจะมีไขมันสะสมตามจุดต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

• ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
• ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
• ไขมันที่แทรกตามกล้ามเนื้อ
• ไขมันในหลอดเลือด

แต่ไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องที่ทำให้มองเห็นว่าเป็นคนอ้วนนั้น ส่วนใหญ่จะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และไขมันในช่องท้อง ในส่วนของไขมันที่สามารถดูดออกมาได้นั้นมักเป็นไขมันใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น ซึ่งไขมันที่สะสมในส่วนของชั้นผิวหนังนี้จะส่งผลต่อรูปร่างทำให้อ้วนขึ้นหรือผอมลงนั่นเอง และยังส่งผลต่อความมั่นใจอีกด้วย แต่การที่ไขมันสะสมในส่วนนี้ไม่ได้เป็นอัตรายต่อร่างกาย ซึ่งทุกคนนั้นก็จะมีไขมันสะสมตามจุดต่าง ๆ มาก-น้อยแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ปริมาณของไขมันในแต่ละตำแหน่งที่แต่ละคนมีนั้น จะส่งผลต่อผลลัพธ์หลังดูดไขมันหน้าท้องได้ด้วยเช่นกัน

ดูดไขมันเหมาะกับใคร

• คนที่ไม่ได้มีรูปร่างอ้วนทั้งตัว
• น้ำหนักตัวไม่ได้มากเกินปกติ
• คนที่มีขันสะสมเฉพาะจุด
• คนที่มีการควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันก็ยังไม่ลดลง
• คนที่มีผิวหนังยืดหยุ่นดี เมื่อทำการดูดไขมันแล้วผิวจะเรียบเนียน

ใครบ้างที่ไม่ควรทำการดูดไขมัน

หลายคนอาจจะมองว่าหากต้องการดูดไขมันออกจากร่างกายสามารถทำได้ทุกคน แต่ในความเป็นจริงแล้วการดูดไขมันไม่ได้เหมาะกับทุกคน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของคนที่เข้ารับบริการด้วย และจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญควบคู่กันไป ซึ่งคนที่ไม่ควรทำการดูดไขมันคือคนที่เป็น โรคเส้นเลือดหัวใจ โรคเส้นเลือดสมอง โรคแพ้ภูมิตัวเองโรคเบาหวานที่ยังควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ โรคไทรอยด์ที่ยังควบคุมระดับไม่ได้ และอีกหนึ่งเคสคือคนที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก แต่หากต้องการทำการดูดไขมัน แพทย์ก็อาจจะใช้วิธีผ่าตัดหนังหน้าท้อง เพื่อยกกระชับสัดส่วนร่วมด้วย 

เทคนิคและวิธีการดูดไขมันที่ได้รับความนิยม

หากใครที่กำลังสนใจเกี่ยวกับการดูดไขมัน วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคและวิธีการดูดไขมันว่าแต่ละวิธีนั้นจะมีรายละเอียดที่ต่างกันอย่างไร และมีวิธีไหนบ้าง ซึ่งการดูดไขมันที่เรานำมาบอกกล่าวนี้ล้วนเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น แต่จะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้นมาดูกัน

• Vaser การดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้จะใช้คลื่นเสียงแบบ Ultrasound เพื่อเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันให้กลายเป็นของเหลว จากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือดูดไขมันที่เป็นของเหลวออกมา วิธีนี้ไม่ทำให้ผิวเกิดรอยฟกช้ำ และช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังลดการกระทบต่อเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวสวยและเรียบเนียนมากขึ้น
• Body Tite เป็นการใช้พลังงาน RF (Radio Frequency) ส่งเข้าไปที่ชั้นลึกของผิวหนังไขมัน ทำให้ไขมันสลายและกลายเป็นของเหลว แล้วจึงดูดออกมาได้ง่ายขึ้น อีกนัยหนึ่งก็คือเราใช้คลื่นร้อนและคลื่นไฟฟ้าเพื่อทำลายไขมัน ง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพ
• Water Jet เป็นวิธีดูดไขมันโดยใช้พลังงานน้ำแยกเซลล์ไขมันออกจากผิวหนัง ทำให้ไขมันที่ดูดออกมายังคงคุณภาพ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้
• Smart Lipo สำหรับการดูดไขมันด้วยวิธีนี้จะใช้เลเซอร์ในการสลายไขมัน โดยแพทย์จะทำการยิงเลเซอร์เข้าไปจากนั้นจึงนำไขมันออกมา วิธีนี้จะเป็นการดูดไขมันกึ่งผ่าตัด และจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ไม่เจ็บมากและไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอีกด้วย
• Sexy Line เป็นการดูดไขมันที่ทำให้เกิดแนวกล้ามหน้าท้อง เป็นการทำวีไลน์ในผู้หญิง เพื่อให้สาว ๆ มีความเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น เป็นเทคนิคเฉพาะตัวที่จะช่วยให้คนที่ไม่ชอบการออกกำลังกายแต่อย่างมีซิกแพคมีแนวเซ็กซี่ไลน์ในรูปแบบของสามมิติ ดูสวยเป็นธรรมชาติ เหมือนของจริงมาก ในส่วนของผู้ชายนั้นก็สามารถทำซิกแพคได้เช่นกัน

สรุป

การดูดไขมันเป็นวิธีหนึ่งที่หลายคนมักเข้าใจว่าทำให้ตัวเองมีรูปร่างที่ดูสวยงามและสุขภาพดีขึ้น แต่ควรทำความเข้าใจว่ามันไม่ใช่วิธีที่เหมาะสำหรับทุกคน และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการดูดไขมันใดๆ เพื่อให้ทราบถึงความเหมาะสมและควรระมัดระวังในขั้นตอน ดังกล่าวตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคลและสุขภาพรวมของตัวเองด้วย หากยังไม่มั่นใจว่าการดูดไขมันเหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนตัดสินใจดูดไขมัน